หัวข้อ
- #รสชาติของอินทผลัม
- #การเตรียมอินทผลัม
- #การเก็บรักษาอินทผลัม
- #คุณค่าทางโภชนาการของอินทผลัม
- #การใช้ประโยชน์จากอินทผลัม
สร้าง: 2024-09-09
สร้าง: 2024-09-09 15:01
ฤดูกาลของมะเดื่อในเกาหลี (เกาหลีใต้) อยู่ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ถือเป็นผลไม้ประจำฤดูใบไม้ร่วง และเป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากมีกลิ่นหอมและรสหวานเป็นเอกลักษณ์ มะเดื่อเป็นผลไม้ที่มนุษย์บริโภคมาตั้งแต่สมัยโบราณ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากพอที่จะปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ มีเรื่องเล่าว่าใบไม้ที่อาดัมกับเอวาใช้ปกปิดร่างกายในสวนอีเดนก็คือใบไม้ของต้นมะเดื่อ
ในโพสต์นี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเตรียมและเก็บรักษาผลึกมะเดื่อ รวมถึงวิธีการรับประทานให้อร่อยอย่างละเอียด!
มะเดื่อเป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก เช่นเดียวกับลูกพลัมหรือเชอร์รี่ โดยทั่วไปแล้วมักจะรับประทานทั้งเปลือก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะล้างแล้วรับประทานได้เลย มะเดื่อเป็นผลไม้ที่บอบบาง ดังนั้นการรู้วิธีการเตรียมที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณได้ลิ้มรสความหวานและสัมผัสที่นุ่มนวลได้ดียิ่งขึ้น
ลักษณะของอินทผลัม
วิธีการล้าง: ควรจับที่ก้นผลมะเดื่อแล้วล้างด้วยน้ำไหลเบาๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องระมัดระวังอย่าให้ผลมะเดื่อตั้งตรง เนื่องจากน้ำที่ไหลเข้าไปด้านล่างอาจทำให้ความหวานลดลง ดังนั้นจึงควรจับที่ก้นผลมะเดื่อไว้ด้านบนแล้วล้างโดยให้น้ำไหลผ่าน
น้ำอาจไหลเข้าไปในส่วนล่างของอินทผลัมได้
วิธีการรับประทานทั้งเปลือก: เปลือกของมะเดื่อมีความบางและนุ่ม ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปอกเปลือกก่อนรับประทาน หากคุณรู้สึกว่าเปลือกไม่น่ารับประทาน คุณสามารถผ่าผลมะเดื่อครึ่งหนึ่งแล้วใช้ช้อนตักเนื้อด้านในรับประทานก็ได้
มะเดื่อเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างยากในการเก็บรักษา เนื่องจากเน่าเสียและนิ่มได้ง่าย ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามวิธีการเก็บรักษาที่เหมาะสม
การเก็บรักษาในตู้เย็น : ควรเก็บมะเดื่อไว้ในอุณหภูมิต่ำระหว่าง 1 ถึง 5 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานภายใน 2-4 วันหลังจากเก็บรักษาไว้จะดีที่สุด เนื่องจากหากเก็บไว้นานเกินไป ผลมะเดื่อจะเริ่มนิ่มและความหวานและรสสัมผัสจะลดลง นอกจากนี้ ไม่ควรวางผลมะเดื่อรวมกันเป็นก้อน ควรห่อผลมะเดื่อแต่ละผลด้วยกระดาษหรือผ้าเช็ดปาก แล้วจึงใส่ในถุงพลาสติกก่อนเก็บรักษา
เหมือน 'ขนมโฮดูกวาซา' เลย... ห่อด้วยกระดาษทีละผล แล้วจึงใส่ถุงพลาสติกเก็บรักษา
การเก็บรักษาในช่องแช่แข็ง : หากต้องการเก็บรักษามะเดื่อไว้นานขึ้น แนะนำให้แช่แข็ง ผลมะเดื่อที่แช่แข็งจะคงความสดอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน ผลมะเดื่อที่แช่แข็งสามารถนำไปใส่ในโยเกิร์ตหรือสมูทตี้ได้ อร่อยมากเลยล่ะ
มะเดื่อเป็นผลไม้ที่อร่อยในตัวเอง แต่ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เนื่องจากมีรสหวานและสัมผัสที่นุ่มนวล จึงเหมาะกับการเป็นส่วนประกอบของของหวานและอาหารต่างๆ
รับประทานแบบธรรมชาติ : วิธีการที่ง่ายที่สุดคือการรับประทานทั้งเปลือก สามารถรับประทานทั้งผลหรือผ่าครึ่งแล้วตักเนื้อด้านในรับประทานก็ได้
สลัด : มะเดื่อเป็นที่นิยมในการใช้เป็นส่วนประกอบของสลัด เมื่อรับประทานคู่กับอะโวคาโด ชีส และถั่วต่างๆ จะช่วยเพิ่มรสชาติที่กลมกลืนและความหวานของมะเดื่อ
ของหวาน : มะเดื่อราดน้ำผึ้งเล็กน้อยเป็นของหวานที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ การรับประทานคู่กับครีมชีสจะช่วยเพิ่มรสสัมผัสที่นุ่มนวลมากขึ้น
การทำแยมมะเดื่อ : การนำมะเดื่อมาทำแยมจะช่วยให้คุณสามารถนำไปรับประทานคู่กับขนมปังหรือโยเกิร์ตได้ แยมมะเดื่อยังคงรสหวานตามแบบฉบับของมะเดื่อเอาไว้
มะเดื่อเป็นผลไม้ที่มีทั้งรสหวานและสารอาหารมากมาย อุดมไปด้วยวิตามินซี เส้นใยอาหาร และโพแทสเซียม ช่วยบำรุงสุขภาพลำไส้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะเส้นใยอาหารช่วยป้องกันอาการอาหารไม่ย่อย ท้องผูก และริดสีดวงทวาร ส่วนโพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวกันว่ามะเดื่อช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน ภาวะหมดประจำเดือน และอาการปวดประจำเดือนได้อีกด้วย
ความคิดเห็น0